แผนภาพความคิด (Mind Map) คือ
การถ่ายทอดความคิด หรือข้อมูลต่าง ๆ ที่มีอยู่ในสมองลงกระดาษ โดยการใช้ภาพ สี เส้น
และการโยงใย แทนการจดย่อแบบเดิมที่เป็นบรรทัด ๆ เรียงจากบนลงล่าง
ขณะเดียวกันมันก็ช่วยเป็นสื่อนำข้อมูลจากภายนอก เช่น หนังสือ คำบรรยาย การประชุม
ส่งเข้าสมองให้เก็บรักษาไว้ได้ดีกว่าเดิม ซ้ำยังช่วยให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ได้ง่าย
เนื่องจะเห็นเป็นภาพรวม และเปิดโอกาสให้สมองให้เชื่อมโยงต่อข้อมูลหรือ ความคิดต่าง
ๆ เข้าหากันได้ง่ายกว่า
“ใช้แสดงการเชื่อมโยงข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งระหว่างความคิดหลัก
ความคิดรอง และความคิดย่อยที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน”
การสร้าง แผนภาพความคิด
( Mind Map)
๑. เขียน/วาดมโนทัศน์หลักตรงกึ่งกลางหน้ากระดาษ
๒. เขียน/วาดมโนทัศน์รองที่สัมพันธ์กับมโนทัศน์หลักไปรอบ
ๆ
๓.เขียน/วาดมโนทัศน์ย่อยที่สัมพันธ์กับมโนทัศน์รองแตกออกไปเรื่อย
ๆ
๔.ใช้ภาพหรือสัญลักษณ์สื่อความหมายเป็นตัวแทนความคิดให้มากที่สุด
๔.เขียนคำสำคัญ (Key
word) บนเส้นและเส้นต้องเชื่อมโยงกัน
๕.กรณีใช้สี
ทั้งมโนทัศน์รองและย่อยควรเป็นสีเดียวกัน
๖.คิดอย่างอิสระมากที่สุดขณะทำ
หลักสำคัญในการทำแผนภาพความคิด ( Mind Map) ๑.อย่าเขียนประโยคยาวๆ
เพราะพื้นที่จำกัด ให้เขียนใจความสั้นๆ หรือวลีเท่านั้น หากมีประโยคยาวๆ
ให้กลุ่มช่วยกันสรุปเป็นคำสั้นๆ
๒.ให้เขียนด้วยปากกาหลายๆสี
๓. สามารถแสดงความเห็นได้เต็มที่
การสร้างแผนภาพความคิดมีหลายลักษณะ
การนำแผนภาพความคิดไปใช้ในการอธิบายเล่าเรื่อง เป็นการฝึกคิดวิเคราะห์และการสังเคราะห์ข้อมูลช่วยให้เกิดการพิจารณาองค์ประกอบต่าง
ๆ ของเรื่องได้ครบถ้วนและจัดระบบจัดลำดับความต่อเนื่องได้เป็นอย่างดี
สุรศักดิ์ หลาบมาลา
ได้นำ เสนอรูปร่างลักษณะและวิธีการใช้แผนภาพความคิดดังนี้
๑.แผนภูมิใยแมงมุม
(ASpiderMap)ใช้บรรยายแนวคิดหลักอันมีส่วนประกอบปลีกย่อย
อื่นๆ เช่น จังหวัดประกอบด้วยอำเภอ
๒. แผนภูมิลำดับเหตุการณ์
(Series of Events Chain) ใช้บรรยายขั้นตอนของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
เช่น
การเจริญเติบโตของไหม กระบวนการทา สิ่งใดสิ่งหนึ่ง โดยมีจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดเริ่มจากไหนมีความยาวเท่าไร
๓.
แผนภูมิรูปวงกลมทับเหลื่อม (Overlapping
Circles Map) เสนอการเปรียบเทียบสองสิ่ง
หรือสองเรื่องมีลักษณะเหมือนกัน หรือต่างกัน
๔. แผนภูมิวงจร
(A Circle Map) นา เสนอโดยการเขียนเป็นแผนผังเพื่อเสนอความสัมพันธ์เป็นขั้นตอนต่าง
ๆ ที่สัมพันธ์กัน
เรียงลำ ดับเป็นวงกลม
๕. แผนภูมิก้างปลา
(A Fishbone Map) ใช้แสดงสาเหตุของเหตุการณ์ที่ซับซ้อน โดยเขียน
ประเด็น หรือเรื่องหลักแล้วเสนอสาเหตุและผลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
๖.
แผนภูมิพฤกษา (Network Tree)ใช้แสดงสาเหตุแห่งผลที่เกิดขึ้น ลำดับของตระกูล
สาขาของความต่อเนื่อง แนวคิดคืออะไร อะไรคือส่วนหลัก อะไรคือส่วนรอง และมีความ เกี่ยวพันอย่างไร
๗.
แผนภูมิเปรียบเทียบ (A Compare Table Map) การเขียนเป็นตารางเพื่อเปรียบเทียบสอง
สิ่งหรือสองเรื่องในประเด็น ที่กำหนด
๘.แผนภูมิต่อเนื่อง (Continue / Scale) ใช้แสดงความต่อเนื่องของเวลาระดับ
ความสำคัญ
ของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ซึ่งต้องมีจุดเริ่มต้น จุดสิ้นสุด เช่น อายุ
เหตุการณ์ในประวัติศาสตร์
๙.แผนภูมิวัฎจักร (Cycle) ใช้แสดงลำดับเหตุการณ์ที่เกี่ยวพันกัน อันนำไปสู่ผลอันหนึ่ง
ซึ่งเกืดขึ้นแล้วเกิดอีก เช่น น้ำระเหย ก้อนเมฆ ฝนตก
๑๐.แผนภูมิแก้ปัญหา (Problem/Solution Out Line) ใช้ในการแสดงปัญหา
วิธีการแก้ปัญหา และผลที่ได้แนวคิด อะไรคือปัญหา ใครมีปัญหา
ทำไมจึงเกิดปัญหา วิธีแก้ปัญหามีอะไร ผลออกมาอย่างไร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น